แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แนะนำ แสดงบทความทั้งหมด

ใช้ ''ลู่วิ่งไฟฟ้า'' อย่างมือโปร

     ในเมื่อคิดจะออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าแล้ว ก็เอาให้เต็มที่ไปเลย ! วิ่งให้ถูกวิธี วิ่งให้นาน วิ่งให้ไกล พัฒนาตัวเอง ค่อย ๆ ขยับเป้าหมาย คุณจะเริ่มมีความสุขกับการวิ่ง ๆ ๆ แล้วก็วิ่ง แล้วคุณจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากเลยทีเดียว -^o^-

     ถึงยังไงก็ตาม ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าหมายที่จะวิ่งลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ใหญ่สักแค่ไหน ไม่ว่าจะลดน้ำหนัก ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่เตรียมตัวไปแข่งวิ่งมาราธอน เราก็สามารถจะหัดวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าให้ถูกวิธีอย่างมือโปรได้ จริงไหมครับ

     เพราะไม่เพียงแค่มันจะทำให้คุณวิ่งได้ดีขึ้น วิ่งได้นานขึ้น เท่านั้น การใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าให้ถูกวิธีและวิ่งอย่างถูกหลักนั้น สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุหรืออาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดจากการวิ่งได้


การวางเท้า

     ส้นเท้าต้องเป็นส่วนที่สัมผัสพื้นก่อน แล้วฝ่าเท้าและปลายเท้าจึงค่อย ๆ สัมผัสพื้นตามลำดับ (ให้ริมเท้าด้านนอกสัมผัสก่อนก็จะช่วยลดแรงกระแทกได้) หลังจากนั้นจึงถีบพื้นด้วยปลายเท้าเพื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้า จังหวะที่เท้าข้างหน้าสัมผัสพื้นต้องเป็นจังหวะที่เข่างอเล็กน้อย

     นักวิ่งเร็วจะวิ่งโดยการใช้ปลายเท้าสัมผัสพื้นก่อน แต่นักวิ่งระยะไกลหรือวิ่งเพื่อสุขภาพควรจะให้ส้นเท้าสัมผัสพื้นก่อน รวมถึงการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าด้วยก็ควรใช้วิธีที่ส้นเท้าลงก่อนครับ

แขนและลำตัว

     แขนแกว่งตามธรรมชาติ งอเล็กน้อยตามความสบาย แต่ไม่ควรงอจนแคบกว่า 90 องศา ปล่อยตามสบายไม่เกร็ง ลำตัวตั้งตรงไม่เอียงตัวไปทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะข้างหน้าหรือข้างหนัง

ความเร็ว

     วิ่งจนได้เร็วระดับที่จนรู้สึกว่าหายใจแรง วิ่งไปสักระยะเวลาหนึ่งควรจะมีเหงื่อออก อย่าลืม! เริ่มจากความเร็วต่ำ ๆ ก่อน หากวิ่งไปแล้วรู้สึกว่าหายใจไม่ทัน ใจสั่น เจ็บหน้าอก หูอื้อ ให้ค่อย ๆ ลดความเร็วลง หากยังไม่หายให้เปลี่ยนเป็นเดิน หากยังไม่หายอีกให้หยุดวิ่งก่อน

ความถี่ ระยะเวลาในการวิ่ง

     สำหรับการวิ่งเพื่อสุขภาพอย่างต่ำควรวิ่งให้ได้ 3 วันต่อสัปดาห์ ในหนึ่งสัปดาห์ควรมี 1 วันที่วิ่งเร็ว(การวิ่งเร็วจะช่วยให้หัวใจทำงานแข็งแรง)  และอีก 1 วันที่วิ่งระยะทางไกล ๆ วิ่งจนรู้สึกกล้ามเนื้อปวดเมื่อย (เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ)

     แล้วอย่าลืมเรื่องง่าย ๆ ในการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าเหล่านี้ด้วยนะครับ เรื่องพื้นฐาน ๆ ที่ผู้ใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าไม่ควรลืม !

ก่อนจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า อย่าลืม ! เรื่องเหล่านี้

     หากคุณตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า คุณจะวิ่ง ! และจะมีลู่วิ่งไฟฟ้าซักอันตั้งไว้ที่บ้าน เพื่อความสะดวกในการออกกำลังกาย

     หยุด ! อย่าพึ่งรีบซื้อ ถ้าคุณยังไม่ได้พิจารณาเรื่องเหล่านี้ ซึ่งมีผลมากต่อการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้า คุณจะได้ไม่พลาดที่จะได้ลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะกับตัวคุณ เพราะลู่วิ่งไฟฟ้าเครื่องหนึ่งก็ไม่ได้ถูก ๆ เลย (ถ้าโอเคหน่อยก็ 3 หมื่นขึ้นไปทั้งนั้น)

     ทำไม ต้องเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า มันมีหลายแบบ เหรอ ?

     จริง ๆ มันก็ไม่ได้มีหลายแบบมากมายอะไรหรอกครับ จะต่างกันหลัก ๆ ก็แค่ ขนาด กำลังไฟ ความเร็ว ประมาณนี้ครับ อื่น ๆ ก็จะมีฟังก์ชันเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อเป็นลูกเล่นส่งเสริมการขาย ;-)

     สิ่งที่ควรจะคิด ก่อนจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า ก็ตามนี้เลยครับ


1. ความน่าเชื่อถือของร้านที่ซื้อ ยี่ห้อ การรับประกันสินค้า


     อันนี้เป็นเรื่องสำคัญครับ ถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงกับลู่วิ่งไฟฟ้าที่พึ่งซื้อมาแล้วเสียแต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจาก ซื้อใหม่ :-(

     ควรซื้อยี่ห้อที่มีศูนย์อยู่ในประเทศไทย มีรับประกันอย่างน้อย 1 ปี ถ้าได้ 5 ปีก็จะดีมาก

2. มอเตอร์

     สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องมอเตอร์มาก่อนอาจจะยากหน่อย แต่ไม่เกินไปหรอกครับ กับการที่คุณจะได้รู้ทีหลังว่า คุณตัดสินใจไม่ผิด

     มอเตอร์มีหน่วยวัดเป็น"แรงม้า"ครับ ซึ่งที่มอเตอร์บางยี่ห้อก็บอกเป็น แรงม้าต่อเนื่อง บางยี่ห้อก็จะบอกเป็น แรงม้าสูงสุด อันนี้ต้องแยกดี ๆ ครับ

     สำหรับขนาดที่แนะนำสำหรับวิ่งก็คือ 2.5 แรงม้า(แรงม้าต่อเนื่อง) ขึ้นไปครับ

     ส่วนถ้าคนที่ต้องการซื้อมาเพื่อเดินเป็นหลัก ใช้ 1.5 แรงม้า(แรงม้าต่อเนื่อง) ก็เพียงพอแล้วครับ

3. สายพาน

     สำหรับขนาดที่แนะนำสำหรับวิ่งก็คือ กว้าง 50 ยาว 150 เซนติเมตรขึ้นไป เลือกแบบที่ความหนามากกว่า 2 มิลลิเมตรก็ดีครับ

     หากใช้เดินเป็นหลัก จะลดขนาดลงมาหน่อยก็ได้นะครับ

4. ความเร็วสูงสุด

     หากไม่ได้จะฝึกฝนเพื่อเป็นเป็นนักวิ่งก็ไม่ต้องสนใจข้อนี้มากก็ได้ครับ ส่วนใหญ่ลู่วิ่งไฟฟ้าก็จะเผื่อความเร็วมาให้ระดับหนึ่งแล้ว

5. น้ำหนักที่รับได้

     เผื่อให้เกินน้ำหนักตัวไปด้วยนะครับ ในรายละเอียดจะมีบอกน้ำหนักที่รับได้อยู่ ลองขอพนักงานที่ร้านขึ้นไปลองวิ่งดูเลยครับ ว่ารู้สึกว่าแข็งแรงรับน้ำหนักเราได้สบาย ๆ วิ่งแล้วต้องไม่มีเสียงชิ้นส่วนไหนของลู่วิ่งที่เสียดสีกัน (นอกจากสายพาน)

6. ระบบความปลอดภัย และลูกเล่นอื่น ๆ

     หากเป็นมือใหม่ ลู่วิ่งไฟฟ้าควรจะมีระบบหยุดทำงานเมื่อผู้วิ่งพลาดหกล้ม

     ลูกเล่นอื่น ๆ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลแล้วครับ ที่เห็นมีส่วนใหญ่ก็ เช่น ปรับระดับความชันได้ วัดปริมาณแคลอรี่ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ เชื่อมต่ออุปกรณ์ฟังเพลง ฯลฯ